สล็อตxo ควันปีศาจ บุหรี่ไฟฟ้า ชื่อปฏิบัติการพิเศษของกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง จับกุมผู้ต้องหาลักลอบผลิตและจำหน่ายน้ำยาและอุปกรณ์บุหรี่ไฟฟ้า มูลค่ารวมกว่า 10 ล้านบาท
การตั้งชื่อปฏิบัติการควันปีศาจ สล็อตXO ดูจะเป็นความตั้งใจที่จะสื่อให้เห็นว่านี่คือการจับกุมสินค้าอันตรายที่บ่อนทำลายประเทศชาติ ทั้งที่ความจริงแล้วเรื่องของบุหรี่ไฟฟ้าทั้งเรื่องความอันตรายและการถูกกำหนดให้เป็นสินค้าผิดกฎหมายยังคงเป็นประเด็นที่มีการถกเถียงกันในสังคมจำนวนมาก
จับกุมล็อตใหญ่ครั้งนี้จึงไม่ใช่ครั้งแรก และแน่นอนว่าจะไม่ใช่ครั้งสุดท้าย เพราะแม้รัฐบาลโดยกระทรวงพาณิชย์จะมีประกาศตั้งแต่ปี 2557 กำหนดให้บุหรี่ไฟฟ้าเป็นสินค้าต้องห้ามนำเข้ามาในราชอาณาจักร และต่อมาในปี 2558 คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ก็มีคำสั่งห้ามขายหรือห้ามให้บริการสินค้า บารากู่ บารากู่ไฟฟ้า หรือบุหรี่ไฟฟ้า
สล็อตxo แต่ในทางปฏิบัติ เรากลับพบเห็นคนใช้บุหรี่ไฟฟ้ากันได้ทั่วไปเหมือนเป็นสินค้าปกติ แม้กระทั่งในรัฐสภา
นอกจากนี้ การแบนบุหรี่ไฟฟ้ายังได้ก่อให้เกิดปัญหามากมาย ทั้งการลักลอบนำเข้าและจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าตามช่องทางต่างๆ ซึ่งพบเห็นได้ทั่วไป จำนวนผู้ใช้ที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ และยังพบว่ามีการใช้กฎหมายเอาผิดกับผู้ที่สูบบุหรี่ไฟฟ้าในปัจจุบัน และนักท่องเที่ยวที่นำบุหรี่ไฟฟ้าติดตัวเข้าประเทศด้วย
กลายกระแสรณรงค์ “ปลดล็อกบุหรี่ไฟฟ้า”โดยกลุ่มผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้าที่ให้เหตุผลว่า ต้องการให้เป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการลดอันตรายจากการสูบบุหรี่ ในลักษณะเดียวกับที่หลายๆ ประเทศทั่วโลกสนับสนุนให้บุหรี่ไฟฟ้าเป็นเครื่องมือทดแทนการสูบบุหรี่ หรือใช้สำหรับการเลิกบุหรี่
เช่นเดียวกับความพยายามในการปลดล็อกกัญชา กระท่อม หรือการนำสินค้าใต้ดินทั้งหลายขึ้นมาอยู่บนดินเพื่อควบคุม จัดระเบียบ
ความพยายามในการผลักดันให้มีการควบคุมบุหรี่ไฟฟ้าอย่างถูกกฎหมาย เริ่มขึ้นเมื่อปี 2561 เมื่อคณะกรรมาธิการพาพาณิชย์ (กมธ.) สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ออกรายงานเสนอให้รัฐบาลพิจารณาข้อมูลบุหรี่ไฟฟ้าในด้านประโยชน์และโทษอย่างถี่ถ้วน
ในเดือนตุลาคม 2561 กรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ จึงรับเป็นเจ้าภาพเชิญ 19 หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงสาธารณสุข กรมสรรพสามิต สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หอการค้าไทย เครือข่ายรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ และเครือข่ายผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้า เข้าร่วมประชุมให้ข้อมูล
ถือเป็นครั้งแรกที่มีการรับฟังความคิดเห็นประเด็นการแบนบุหรี่ไฟฟ้าที่มีทุกฝ่าย ทั้งภาครัฐและภาคประชาชนเข้าร่วมประชุม
อีกครั้งที่เสียงของประชาชนและข้อมูลงานวิจัยจากต่างประเทศที่สนับสนุนการใช้บุหรี่ไฟฟ้าไม่ได้ถูกนำไปพิจารณาร่วมด้วยเลย เครือข่ายภาคประชาชนที่ได้รับเชิญเข้าประชุมในครั้งแรก กลับถูกกีดกันไม่ให้เข้าไปมีส่วนร่วมกับการศึกษาของคณะทำงาน
ในเดือนเมษายน 2563 เครือข่ายผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้าจึงเดินหน้าฟ้องผู้ตรวจการแผ่นดินอีกครั้ง ให้ตรวจสอบกระบวนการทำการศึกษาดังกล่าวให้เป็นไปอย่างโปร่งใส และทวงสิทธิในการเข้าถึงทางเลือกที่เป็นอันตรายน้อยกว่า ซึ่งในที่ประชุมเองก็ยืนยันว่าควรมีการรับฟังเสียงจากผู้ที่เกี่ยวข้องเพราะกระบวนการศึกษาทบทวนของศจย.นั้นมีปัญหา
ปัญหาเรื่องกระบวนการ ขาดการมีส่วนร่วมของประชาชนผู้ได้รับผลกระทบ มีงานวิจัยที่ยังขัดหรือแย้งกันอยู่ในหลายประเด็น และมีปัญหาเรื่องการบังคับใช้กฎหมายได้จริง เพราะมีการใช้บุหรี่ไฟฟ้ากันกลาดเกลื่อนเสมือนเป็นสินค้าที่ถูกต้องตามกฎหมาย จึงให้มีการไปศึกษางานวิจัยและหลักฐานทางวิทยาศาสตร์เพิ่มเติม
นับเป็นความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจโดยเฉพาะการใช้กลไกตรวจสอบการทำงานอย่างผู้ตรวจการแผ่นดินเข้ามาแสวงหาข้อเท็จจริง เพราะดูเหมือนกว่ากลไลผู้ตรวจการแผ่นดินจะมีความเป็นกลาง รับฟังความเห็นทั้งผู้ร้องและผู้ถูกร้อง จนนำไปสู่การพิจารณาทบทวนเรื่องนี้อีกครั้ง
เนื่องจากกระบวนการที่ผ่านมานั้นถูกร้องเรียนว่ามีปัญหา ไม่เป็นกลาง แต่ฝ่ายข้าราชการประจำที่นำโดยกรมการค้าต่างประเทศกลับมิได้นำพาถึงปัญหาดังกล่าว แต่กลับสรุปยืนยันความเห็นตามที่หน่วยงานศึกษาชงเรื่องมาทั้งที่มีการโต้แย้ง คัดค้านกันมาตลอดเวลา 2 ปี
จากที่ว่ามาทั้งหมด แม้หนทางการปลดล๊อกบุหรี่ไฟฟ้าจะไม่ง่ายดายสดใสเหมือนการปลดล๊อกกัญชาหรือกระท่อม ที่มีกลุ่มการเมืองหนุนหลัง แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปได้ เมื่อนานาชาติ รวมทั้งประเทศเพื่อนบ้านต่างก็หันมาให้ความสำคัญกับกฎหมายคุม บุหรี่ไฟฟ้า
ยกตัวอย่างประเทศนิวซีแลนด์ที่ในอดีตก็เคยแบนบุหรี่ไฟฟ้า แต่ต่อมาก็มีการพิจารณาแนวทางควบคุมใหม่ โดยรัฐบาลทำงานแลกเปลี่ยนข้อมูลกับนักวิชาการ นักวิทยาศาสตร์ และกลุ่มผู้บริโภค ที่สุด รัฐบาลนิวซีแลนด์ประกาศระเบียบในการควบคุมบุหรี่ไฟฟ้า และอนุญาตให้ขายบุหรี่ไฟฟ้าอย่างถูกกฎหมาย ได้ในปี 2561
ขณะที่ประเทศฟิลิปปินส์ คณะกรรมาธิการร่วมแห่งสภาผู้แทนราษฎร ก็ดันร่างกฎหมายบุหรี่ไฟฟ้าและผลิตภัณฑ์ยาสูบประเภทให้ความร้อนผ่านรัฐสภา เพราะเห็นว่าจะช่วยให้มีความชัดเจนในเรื่องของการห้ามการเข้าถึงของเยาวชน กำหนดอายุของผู้ซื้อ ควบคุมคุณภาพ และจัดระเบียบการใช้ผลิตภัณฑ์ได้อย่างรัดกุม
เรื่องนี้จะเกิดขึ้นในประเทศไทยได้หรือไม่ ขึ้นอยู่ที่มุมมองของผู้บริหารประเทศ ว่าจะใช้วิธีสร้างภาพน่ากลัว วิ่งไล่จับกันต่อไป หรือจะหาทางควบคุมกันใหม่ ทำให้ถูกต้อง ถูกกฎหมาย “ผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้าในสภา”จะได้ไม่เข้าข่ายผู้กระทำความผิดกฎหมายซะเอง
ขอบคุณข่าว : mgr สมการการเมือง
ที่มา : https://slotxo-game.net/